CWKONLINE
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
CWKONLINE

CWKONLINE
 
HomePageHomePage  บ้านบ้าน  GalleryGallery  ค้นหาค้นหา  Latest imagesLatest images  สมัครสมาชิก(Register)สมัครสมาชิก(Register)  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)  

 

 20 คำถาม อยากเป็นแอร์ สจ๊วต

Go down 
ผู้ตั้งข้อความ
good
นักโพสมือใหม่
นักโพสมือใหม่
good


Aquarius จำนวนข้อความ : 26
Points : 78
Registration date : 11/08/2010

20 คำถาม อยากเป็นแอร์ สจ๊วต Empty
ตั้งหัวข้อเรื่อง: 20 คำถาม อยากเป็นแอร์ สจ๊วต   20 คำถาม อยากเป็นแอร์ สจ๊วต Icon_minitimeFri Aug 13, 2010 8:14 pm

Q1 : คำนำหน้าเป็น “นาง” สมัครแอร์ฯ ได้ไหม
A : ส่วน ใหญ่แล้วข้อกำหนดของผู้สมัครงานตำแหน่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน จะมีการระบุไว้ว่า “สถานภาพโสด” ก่อนที่จะสมัครงานตำแหน่งนี้ ถ้าพิจารณาจากสถานภาพโดยนิตินัยแล้ว การที่ผู้สมัครสายการบินนั้นๆ มีการจดทะเบียนสมรสชัดเจน เพราะฉะนั้นคำนำหน้าชื่อ-นามสกุล ก็บ่งบอกแล้วว่า “นาง” คำตอบบอกได้ชัดเจนเลยว่า “ไม่ได้” แต่ถ้าเป็น “นาง” แบบพฤตินัยก็น่าจะได้นะ ข้อกำหนดนี้มีขึ้นอาจจะเป็นเพราะการทำงานจะได้ราบรื่นปราศจากพันธะ แต่ถ้าทำงานไประยะหนึ่งแล้วไปแต่งงานทีหลังก็ไม่มีปัญหา

Q2 : ถ้าจะสมัครเป็นแอร์ฯ-สจ๊วดต้องได้คะแนน TOEIC อย่างต่ำเท่าไร
A : สำหรับข้อนี้ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่า ต้องการสมัครเข้าไปเป็นลูกเรือในสายการบินไหน สายการบินไทย สายการบินญี่ปุ่น สายหารบินเกาหลีหรือสายการบินตะวันออกกลาง ซึ่งแต่ละสายการบินจะมีมาตรฐานระดับคะแนนสอบ TOEIC ไม่เท่ากัน แต่ในปีนี้ผลคะแนนต่ำที่สุดที่ประกาศรับสมัครออกมา คือ 550 คะแนน ส่วนมากจะอยู่ที่ 650 คะแนน ดังนั้นใครที่ต้องการสมัครหลายสายการบินก็ควรเตรียมตัวสอบให้พร้อมเพื่อ สามารถนำผลคะแนนไปใช้ได้ในหลายๆ สายการบิน

Q3 : ถ้าไม่มีผลสอบ TOEIC แต่มีผลสอบ TOEFL หรือ IELTS อยู่แล้ว ใช้แทนกันได้ไหม
A : บาง สายการบินยินดีรับผลคะแนนสอบวัดระดับทางภาษาอังกฤษแบบสากลประเภทอื่นๆ เช่น TOEFL หรือ IELTS โดยทั้ง 2 การสอบอย่างหลังนี้เป็นการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษในเชิงวิชาการเพื่อไปศึกษา ต่อขั้นสูงมากกว่าที่จะวัดผลไปเพื่อการทำงาน ความยากง่าย และจุดประสงค์ในการวัดผลค่อนข้างต่างกัน และที่สำคัญคือ ค่าใช้จ่ายในการสอบต่างกันมากๆ การสอบ TOEIC ผู้สอบต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสอบครั้งละ 1,000 บาท แต่ในการสอบ TOEFL ต้องจ่ายค่าสอบ 140 ฿ หรือ IELTS จะต้องจ่ายเงินค่าสอบประมาณ 5,700 บาทต่อครั้ง ใครอยากสอบแบบไหน จ่ายแบบไหน เลือกกันเอาเองเลย

Q4 : สามารถสอบ TOEIC ได้ที่ไหนบ้าง
A : ศูนย์สอบ TOEIC จะเปิดสอบทุกวันจันทร์-เสาร์ สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์สอบกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ตามที่อยู่ดังต่อไปนี้
ศูนย์ TOEIC ประเทศไทย สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ
ที่ ตั้ง : เลขที่ 54 อาคาร Bangkok Business Building (BB Building) ห้อง Suite 1905-1908 ถนนอโศก (สุขุมวิท 21) เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทรศัพท์ : 0-2260-7061, 0-2260-7189, 0-2260-7535, 0-2259-8840, 0-2664-3131-2
โทรสาร : 0-2664-3122
E-mail : information@toeic.co.th
สำนักงานเขตภาคเหนือ
ที่ตั้ง : เลขที่ 4/6 อาคารนวรัฐ ชั้น 3 ถนนแก้วนวรัฐ ซอย 3 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000
โทรศัพท์ : 0-5324-8208, 0-5330-6600
โทรสาร : 0-5324-8202
E-mail : toeicnorthern@toeic.co.th
Website : www.toeic.co.th

Q5 : รู้มาว่า แอร์ฯ-สจ๊วดทำงานเป็นสัญญาจ้าง ปรกติแล้วจะจ้างกันกี่ปี
A : การจ้างงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ปรกติแล้วจะมีสัญญาจ้าง 1 ปี 3 ปี 5 ปี หรือปีต่อปีแล้วแต่ข้อตกลงของสายการบิน เมื่อครบกำหนดแล้วจะมีการพิจารณาการทำงานเพื่อต่อสัญญาจ้างอีกเพราะฉะนั้นใน ขณะที่ต้องปฏิบัติหน้าที่บนเครื่องบิน พนักงานจะถูกประเมินโดยหัวหน้าระดับสูงด้วย เพื่อที่จะนำผลการประเมินนั้นมาพิจารณาการต่อสัญญาอีก ถ้ามีการลาออกก่อนกำหนดก็ต้องจ่ายค่าปรับเช่นกัน

Q6 : ถ้าว่ายน้ำไม่เป็นสมัครได้หรือเปล่า
A : สำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นสามารถสมัครเป็นลูกเรือได้ เพราะบางสายการบินไม่ได้ระบุว่าเขาต้องการคนที่ว่ายน้ำได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราก็ควรที่จะทำความคุ้นเคยกับการว่ายน้ำ หรือลงน้ำกันบ้าง เพราะเมื่อเราผ่านการคัดเลือกเข้าไปเป็นพนักงานต้อนรับแล้ว ช่วงที่ต้องฝึกอบรมด้านความปลอดภัย ทุกคนก็ต้องลงน้ำเพื่อช่วยเหลือตัวเองขึ้นบนแพยางให้ได้อยู่ดี เป็นอย่างนี้แล้วใครที่ว่ายน้ำไม่เป็น หรือเป็นโรคกลัวน้ำสุดๆ ขอแนะนำให้ไปทำความคุ้มเคยก่อนมาสมัครก็จะเป็นการดีกว่า เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว ถึงแม้ว่าจะผ่านขั้นตอนคัดเลือกอื่นๆ มาแล้ว แต่ถ้าเทรนไม่ผ่านก็จบกัน

Q7 : สามารถทำสีผมได้ไหม
A : ทำ สีผมในที่นี้ต้องถามก่อนว่าทำสีผมสีอะไร ส้ม แดง เขียว ทอง สีจัดจ้านทั้งหลายแหล่ก็ไม่ควร แต่ถ้าทำสีแบบสีธรรมชาติก็ได้แน่นอน อย่าลืมว่าเรื่องภาพลักษณ์ภายนอกเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการคัดเลือกเข้าทำงาน ในอาชีพนี้ด้วย ต้องดูดีตั้งแต่หัวจดเท้า ผมก็ต้องทำให้เป็นทรง ผู้หญิงผมยาวก็ควรรวบผมติดเน็ต ถ้าใครเป็นผู้หญิงผมสั้นมามาดมั่นใจก็ไม่มีปัญหา ขอให้เซตผมให้เรียบร้อย ไม่ทำสี ไม่ไฮไลต์เป็นอันว่าใช้ได้ ส่วนผู้ชายก็ผมสั้นเข้าว่า ไม่ใช่ว่าซอยผมทรงรากไทรก็ไม่เหมาะสม อย่างการบินไทยก็ไม่ควรเซตผมแบบ wet look ด้วย
ดังนั้นเรื่องผมจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญด้วย เพราะเรื่องผมก็นับเป็นเรื่องของการให้คะแนน look ภายนอก ถึงแม้ว่าในบางสายการบินจะอนุญาตให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทำผมทรงไหนก็ ได้ แต่เห็นได้ว่าไม่มีใครทำสีผมแบบประเภทสีสันจี๊ดจ๊าด ส่วนผมก็เซตกันเป็นทรงอย่างเรียบร้อย เพราะฉะนั้นตอนสมัครก็ควรดูดีทุกกะเบียดนิ้ว

Q8 : ควรเตรียมตัวเรื่องอะไรบ้าง
A : การ เตรียมตัวเบื้องต้นที่ทุกคนควรจะเตรียมตัวอย่างแน่นอนเลยก็คือ เสื้อผ้า บุคลิกภาพ ภาษา ในเชิงวิชาการเรื่องของภาษาก็ต้องเตรียมสอบ TOEIC ที่ดีควรได้ 650 คะแนน การสอบข้อเขียน การสัมภาษณ์ต้องฝึกพูดให้ชัดเจนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่แล้วมั่นใจที่สุด และเลือกที่สุภาพ เครื่องแต่งกายของแต่ละสายการบินกำหนดให้แต่งกายแตกต่างกันไป สำหรับผู้ชายสายการบินบางแห่งให้ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นกับผูกเนกไท แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะแต่งยังไงดี ให้ยึดตามแบบสากลนิยมเข้าไว้ คือ ใส่สูทสีเข้าชุด หรือใส่เสื้อเชิ้ต ผูกเนกไทบวกกับรองเท้าหนังสีดำก็เรียบร้อยแล้ว
สำหรับผู้หญิงก็รองเท้าส้นสูง 2 นิ้วขึ้นไปเป็นดี มีเสื้อสูทแขนสั้นสวมทับเสื่อเชิ้ตด้านในหรืออาจจะเป็นเสื้อไหมพรหมบางๆ คอเต่า สีเข้ากันกับสูท กระโปรงประมาณเข่า จะผูกผ้าพันคอก็ได้ให้ดูตามความเหมาะสมของสายการบิน (เช่น สมัครเข้า JAL ผูกผ้าพันคอก็โอ.เค.น่ะ)
ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การเตรียมความพร้อมเรื่องบุคลิกภาพ ต้องฝึกยืนให้ดูดีมีสง่า มั่นใจ ถ้านั่งสัมภาษณ์แล้วนั่งได้หลังตรงจะดีมาก

Q9 : มีแผลเป็นที่แขนสมัครแอร์ฯ ได้ไหม
A : ไม่ได้มีการห้ามไว้นี่ว่ามีแผลเป็นที่แขนแล้วห้ามสมัคร แต่ถ้าเป็นแผลเป็นที่ปูดโปนชัดเจนนอกร่มผ้าก็คงจะไม่ผ่าน เพราะตรงส่วนแขนเป็นจุดที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด แต่ถ้ามีแผลเป็นเล็กน้อยแล้วรองพื้นเอาอยู่ก็น่าจะใช้ได้ ควรจะดูดีทั้งหมด เนื่องจากผู้โดยสารเองก็คงคาดหวังที่จะเห็นพนักงานต้อนรับที่ดูดีทั้งภายนอก และภายใน

Q10 : ที่เขาบอกว่ามีการทำ Group Discussion เราควรจะเตรียมตัวยังไงดี
A : ขั้นตอนในการคัดเลือกจะประกอบไปด้วยการสอบข้อเขียน การทดสอบความถนัด Aptitude Test หรือสอบจิตวิทยทางบุคลิกภาพ การสัมภาษณเดี่ยว และการสัมภาษณ์กลุ่ม ซึ่งการสัมภาษณ์กลุ่มก็มีในรูปแบบการอภิปรายในหัวข้อที่กรรมการเตรียมไว้ อาจจะเป็นเรื่องทั่วไปหรือเรื่องสถานการณ์ที่ตั้งไว้ให้ผู้ร่วมกลุ่มช่วยกัน แก้ปัญหา
การเตรียมตัวก็ลองสมมุติสถานการณ์ดูหรือลองตั้งหัวข้อ พยายามคิดว่าจะตอบอย่างไร ฝึกการแสดงความคิดเห็น พยายามฝึกการวิเคราะห์และวิจารณ์ เพราะระหว่างการอภิปรายกลุ่ม จะมีคณะกรรมการคอยดูและให้คะแนนด้วย ควรแสดงออกอย่างพอดี ถ้าน้อยเกินไปหรือเด่นซะจนโอเวอร์ไม่ปล่อยให้คนอื่นพูดบ้างก็มีสิทธิ์ถูกตัด คะแนนได้เหมือนกัน

Q11 : ได้ยินมาว่ามีการ Walk-in คืออะไร และต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง
A : ความจริงแล้ววิธีการสมัครมี 3 แบบ ด้วยกัน คือ การสมัคร o­nline, Walk-in และสมัครทางไปรษณีย์
-การสมัคร o­nline ถือ ว่าสะดวกที่สุดและสายการบินส่วนใหญ่ก็เปิดรับสมัครผ่านการออนไลน์แล้ว เพียงแค่กรอกข้อมูลตามขั้นตอนที่กำหนดแล้วแนบไฟล์รูปหรือเอกสารที่แจ้งไว้ ควรจะใช้ e-mail address ที่สามารถใช้ได้อย่างน้อยใช้ต่อได้อีก 1 ปี เพื่อการติดต่อกลับ เพราะสายการบินจะส่ง e-mail หรือจดหมายตอบกลับมา อย่าลืมว่าเมื่อกรอกแล้วต้อง print เอกสารใบสมัครออกมาด้วยและควรจำหมายเลขผู้สมัครของตัวเองให้ได้
-Walk-in ต้องเตรี ยมเอกสารทุกสิ่งอย่างให้ครบตามที่สายการบินนั้นกำหนด แล้วนำไปตามสถานที่ วัน และเวลาที่ประกาศไว้ พร้อมกับการแต่งกายให้เต็มที่ เรียบร้อยแบบสากลนิยม ส่วนใหญ่แล้ววันที่เปิดให้ Walk-in จะจัดขึ้นตามโรงแรมใหญ่ในกรุงเทพฯ
-สมัครทางไปรษณีย์ ส่ง เอกสารที่กำหนดไปตามที่อยู่ ที่สายการบินประกาศไว้ หรือบางสายการบินจะมีบริษัทตัวแทนเป็นผู้ดำเนินการรับสมัคร เอกสารที่ใช้อย่างน้อยก็ต้องเตรียมผลสอบ TOEIC สำเนาทะเบียนบ้าน Transcript สำเนาปริญญาบัตร สำเนาบัตรประชาชน เป็นต้น แล้วจะได้รับการตอบกลับทางโทรศัพท์หรือจดหมายจากสายการบิน

Q12 : ถ้าเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะได้รับสวัสดิการอะไรบ้าง
A : นอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้รับเป็นประจำแล้ว ลูกเรือจะได้รับค่าชั่วโมงบิน ค่าเบี้ยเลี้ยงระหว่างบิน ที่พักเมื่อต้องเดินทางไปทำงานต่างแดน ค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทางและโบนัส นี่ยังไม่รวมถึงค่าซักรีดยูนิฟอร์มที่มีให้นะ นอกจากนี้ยังได้ตั๋วเครื่องบินฟรี (ตามกำหนด) และสิทธิพิเศษต่างๆ กับสายการบิน พร้อมกันนี้สิทธิพิเศษตั๋วเครื่องบินที่ครอบคลุมไปถึงครอบครัวด้วย ซึ่งครอบครัวในที่นี้ หมายถึง พ่อ-แม่ สามีหรือภรรยาและลูก

Q13 : มีสายการบินไหนเปิดรับสมัครลูกเรือชาวไทยบ้าง
A : ข้อมูลล่าสุดในปี 2007 ที่มีประกาศ รับลูกเรือชาวไทย ก็มีอยู่สายการบินด้วยกัน เริ่มต้อนจากสายการบินภายในประเทศก่อนกันแล้ว หรับสายการบินในประเทศไทยที่รับสมัครลูกเรือไทย ได้แก่ สายการบินไทยนกแอร์ ไทยแอร์เอเชีย พีบีแอร์ บางกอกแอร์เวย์ โอเรียนไทยและสัน-ทู-โก
ส่วนสายการบินต่างประเทศที่เปิดรับได้แก่ Gulf Air, Emirates Airline, Etihad Finnair, Kenya Airways, Kuwait airways, Lufthansa, Qantas Qatar, Royal Brunei Airlines, Royal joranian, United Airne, Asiana Airlines, China Airines} Eva AIR, JALways, Jet Airway, Jetstar Internatiomal Airlines, Korean Air, Pakistan Internation Airliones, Sky Star Airways

Q14 : สายการบินต้นทุนต่ำบางแห่งไม่มีบริการเสิร์ฟน้ำและอาหารบนเครื่องแอร์โฮสเตสจะมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง
A : สำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ทำงานกับสายการบินต้นทุนต่ำนั้น มีหน้าที่ต้อนรับผู้โดยสาร ตั้งแต่ก้าวขึ้นบนเครื่องจนกระทั่งเดินลงเครื่องพร้อมทั้งให้ความสะดวกสบาย แก่ผู้โดยสาร และดูแลผู้โดยสาร บนเครื่องให้เดินทางด้วยความปลอดภัย ในบางสายการบินมีการบริการขายอาหารและเครื่องดื่มแก่ผู้โดยสารด้วย

Q15 : อายุไม่ครบ 20 ปี แต่เรียนจบปริญญาตรีแล้วสมัครได้หรือเปล่า
A : ไม่ ได้เลย ถึงแม้ว่าเรียนจบปริญญาตรีตามที่เขากำหนดแล้วแต่อายุไม่ถึงก็ต้องรอจนกว่า อายุจะถึงตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ เนื่องจากสายการบินส่วนใหญ่รับสมัครคนที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป เพราะแสดงถึงการบรรลุนิติภาวะและการมีความสามารถรับผิดชอบในระดับหนึ่ง การพิจารณารับสมัครนั้น คุณสมบัติเบื้องต้นของการสมัครต้องพิจารณาประกอบกัน ถ้าขาดอันใดอันหนึ่งก็ถูกตัดสิทธิ์

Q16 : ไม่เคยเรียนทางด้านธุรกิจการบิน หรือเรียนคอร์สเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นลูกเรือมาก่อน จะมีโอกาสได้ทำงานไหม
A : ต้องได้สิ เพราะไม่ได้มีการบังคับว่าจะต้องผ่านการเรียนคอร์สในสถาบันก่อนถึงจะมีโอกาส สมัครและได้งาน แต่การเข้าเรียนในสถาบันต่างๆ นั้นถือว่าเป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อมและช่วยเสริมความมั่นใจก่อนการ สมัครจริง คนที่เรียนมาอาจจะได้เปรียบกว่าตรงที่รู้ว่าต้องแต่งตัวอย่างไร ควรตอบสัมภาษณ์อย่างไร เขาอาจจะชินกับการผ่านการจำลองสถานการณ์มากกว่า แต่โอกาสที่จะได้งานทำนั้น ผลตัดสินอยู่ที่ความสามารถ ความมั่นใจ และบุคลิกภาพที่เราจะสามารถนำเสนอต่อกรรมการต่างหาก
แต่เรื่องการเรียนในสถาบัน มีบางคนผ่านการคัดเลือกแล้วก็มีมาเรียนเพิ่มเติมความรู้ด้วยถึงแม้ว่าจะต้อง ฝึกอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว เรียนรู้ไว้ไม่เสียหาย เพราะอาชีพนี้ทริปยุโรปสุดหรู หรือการลงจอดฉุกเฉินเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

Q17 : หน้าตาไม่สวย ไม่หล่อสมัครลูกเรือได้หรือเปล่า
A : การเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ความสวยหรือความหล่อก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เรามีความโดดเด่นหากเดินเข้า ไปสมัคร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความสวยความหล่อแต่เพียงอย่างเดียวที่จะทำให้เราได้ รับคัดเลือก แต่ยังต้องประกอบไปด้วยส่วนอื่นๆ ด้วย เช่น บุคลิกภาพที่สง่างาม มีจิตใจที่ชอบงานบริการ หรือเป็นคนสุภาพอ่อนโยน ร่าเริงแจ่มใส มีไหวพริบปฏิภาณที่ดี สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นตัวช่วยให้เราสามารถฝ่าฟันด่านการทดสอบต่างๆ ไปได้มากกว่า

Q18 : ทำงานอาชีพนี้ ทางสายการบินมีการกำหนดวันหยุดอย่างไร
A : ในขณะที่คนอื่นได้หยุดในช่วง Long Weekend แต่คนที่ทำงานในอาชีพนี้ไม่ได้หยุดพักต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น เพราะเป็นช่วงทำรายได้ให้กับสายการบิน เที่ยวบินก็อาจจะเพิ่มขึ้น การทำงานสายการบินนี้ไม่มีวันหยุดแน่นอน ถ้าอยากทำงานตรงนี้ต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่า วันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์เราก็ต้องทำงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับตารางการบิน
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะต้องบินทุกวันทั้งเดือน เพราะมีการกำหนดชั่วโมงบินไว้ด้วย แถมวันหยุดไม่ได้บินก็มีเวลาพักเดินเล่นต่างประเทศอีกต่างหาก

Q19 : มีความสามารถมากกว่า 3 ภาษา มีโอกาสได้เป็นลูกเรือมากกว่าคนอื่นหรือเปล่า
A : ในบางสายการบินมีการแจ้งในการประกาศรับสมัครว่า หากรู้ภาษาที่ 3 จะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษนั่นก็หมายความว่ามีโอกาสมากกว่าแน่นอน และเรื่องของการรู้ภาษาที่ 3 จะมีโอกาสพิเศษกว่าก็ต่อเมื่อกรณีที่ผู้สมัครมีคุณสมบัติเท่ากันทุกประการ แต่อีกคนหนึ่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าในเรื่องของภาษาที่ 3 กรณีนั้นอาจจะถือว่าเป็นโอกาสที่ได้มากกว่า
ส่วนคนที่เข้าไปทำงานเป็นแอร์ฯ-สจ๊วดแล้ว จะมีการติดธงภาษา ซึ่งจะบ่งบอกว่าคนๆ นั้นรู้ภาษาแล้วสามารถสื่อสารภาษาอะไรได้บ้าง ถ้าผ่านการทดสอบภาษาที่รู้เพิ่มเติมก็จะได้ค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นด้วย (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละสายการบิน)

Q20 : จะสมัครเป็นลูกเรือสายการบินที่ไหนดีระหว่างสายการบินของเอเชียกับสายการบินต่างชาติ
A : แล้วแต่ความต้องการ แต่เราควรจะดูว่าเราเหมาะสมกับสายการบินไหน สายการบินเอเชียกับสายการบินต่างชาติมีสไตล์แตกต่างกัน คุณสมบัติและลักษณะการรับลูกเรือที่เขาต้องการถึงแม้ว่าจะไม่ได้แจ้งเป็นลาย ลักษณ์อักษรว่าต้องการคนที่มีลักษณะ (เฉพาะ) แบบใด แต่สไตล์คนที่รับต่างกัน เช่น สายการบินเอเชียอาจจะชอบคนที่อ่อนโยน นอบน้อม ในขณะที่สายการบินอื่นๆ ชอบคนที่มีความมั่นใจสูง
ส่วนข้อแนะนำอีกข้อหนึ่งคือ บางสายการบิน มีฐานบินอยู่ที่ต่างประเทศ เพราะฉะนั้นลูกเรือต้องหอบกระเป๋าไปอยู่ที่นั่นด้วย เช่น สายการบินเอมิเรตส์ที่ลูกเรือจะต้องอยู่ประจำที่ดูไบ หรือ Dubai base แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องความสะดวกสบาย เพราะเขาจัดที่พักลูกเรือไว้อย่างดีและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีไว้ให้อย่าง เพียบพร้อมแล้ว แค่ต้องคิดดูว่าตัวเราสามารถอยู่ห่างบ้านได้ไหม เท่านั้นล่ะ

ที่มา สนุก.คอม

ติดตามเรื่องราวความๆได้ที่ www.urrac.com/rangsit

ขึ้นไปข้างบน Go down
 
20 คำถาม อยากเป็นแอร์ สจ๊วต
ขึ้นไปข้างบน 
หน้า 1 จาก 1

Permissions in this forum:คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
CWKONLINE :: ห้องแนะแนว-
ไปที่: